Share

5 วิธีป้องกันออฟฟิศซินโดรม นั่งสบาย ไม่ปวดหลัง

Last updated: 17 Apr 2025

         ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากการทำงานในสำนักงานเป็นเวลานาน โดยเฉพาะการนั่งในท่าเดิมซ้ำๆ หน้าคอมพิวเตอร์ ส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น อาการปวดคอ, คอ บ่า ไหล่ และปวดหลัง ซึ่งนอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพร่างกายแล้ว ยังกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานอีกด้วย และปัจจุบันนี้เป็นอาการที่กลุ่มคนทำงานพบกันเป็นจำนวนมาก วันนี้เราจะพาไปดู 5 วิธีป้องกันออฟฟิศซินโดรม ให้ทุกคนนำไปปรับใช้กัน

 


1. จัดท่านั่งให้ถูกต้องตามหลักการยศาสตร์

          การนั่งที่ถูกต้องตามหลักการยศาสตร์ (Ergonomics) เป็นพื้นฐานสำคัญที่สุดในการป้องกันออฟฟิศซินโดรม เพราะการนั่งที่ไม่ถูกต้องเป็นเวลานานจะทำให้กล้ามเนื้อและกระดูกสันหลังต้องรับแรงกดทับมากเกินไป แม้การปรับท่านั่งให้ถูกต้องนี้อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัว ในช่วงแรกอาจรู้สึกไม่คุ้นเคย แต่เมื่อร่างกายปรับตัวได้แล้ว จะช่วยลดแรงกดทับที่กล้ามเนื้อและกระดูกสันหลังได้อย่างมาก

  • ความสูงของเก้าอี้ : ปรับความสูงของเก้าอี้ให้เท้าวางราบกับพื้น และเข่างอเป็นมุมฉาก (90 องศา) เมื่อนั่ง หากเท้าไม่ถึงพื้น ให้ใช้ที่พักเท้าช่วย การที่เท้าไม่ได้วางราบกับพื้นจะทำให้เกิดแรงกดที่ขาด้านหลังและเลือดไหลเวียนไม่ดี

  • พนักพิงหลัง : พนักพิงควรรองรับแนวโค้งตามธรรมชาติของกระดูกสันหลัง โดยเฉพาะบริเวณเอว ควรปรับให้พอดีกับแนวหลังของคุณ ไม่แน่นหรือหลวมจนเกินไป หากเก้าอี้ไม่มีที่รองรับบริเวณเอว อาจใช้หมอนรองหลังเล็กๆ ช่วยได้

  • ตำแหน่งของจอคอมพิวเตอร์ : วางจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในระดับสายตา โดยขอบบนของจอควรอยู่ระดับเดียวกับตาหรือต่ำกว่าเล็กน้อย และอยู่ห่างจากตาประมาณ 50-70 เซนติเมตร การวางจอในตำแหน่งที่เหมาะสมจะช่วยลดการเงยหน้าหรือก้มหน้ามากเกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการปวดคอ

  • ตำแหน่งของแป้นพิมพ์และเมาส์ : วางแป้นพิมพ์และเมาส์ในระดับที่ทำให้แขนงอเป็นมุมฉาก (90 องศา) ข้อศอกควรอยู่ชิดลำตัว ไม่กางออกด้านข้างมากเกินไป และข้อมือควรอยู่ในแนวตรง ไม่งอขึ้นหรือลง การวางอุปกรณ์ในตำแหน่งที่เหมาะสมจะช่วยลดแรงเค้นที่ข้อมือ

  • ระยะห่างจากโต๊ะทำงาน : นั่งให้ชิดโต๊ะพอดี ไม่ห่างเกินไปจนต้องเอื้อมตัว และไม่ชิดจนต้องนั่งงอตัว ระยะห่างที่เหมาะสมคือประมาณ 5-10 เซนติเมตร ระหว่างท้องกับขอบโต๊ะ

 


2. ปรับเปลี่ยนอิริยาบถเคลื่อนไหวร่างกายสลับทำงาน

          การนั่งนิ่งๆ เป็นเวลานานเป็นสาเหตุสำคัญของออฟฟิศซินโดรม แม้จะจัดท่านั่งได้ถูกต้องตามหลักการยศาสตร์แล้วก็ตาม ร่างกายของเรายังคงต้องการการเคลื่อนไหว เพื่อให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย และช่วยในการไหลเวียนของเลือด

  • กฎ 20-20-20 : ทุกๆ 20 นาที ให้ละสายตาจากหน้าจอ มองไปยังวัตถุที่อยู่ห่างออกไปอย่างน้อย 20 ฟุต  (ประมาณ  6 เมตร) เป็นเวลา 20 วินาที กฎนี้จะช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาจากการจ้องหน้าจอนานๆ และยังเป็นการเตือนให้เราได้เปลี่ยนอิริยาบถด้วย

  • ลุกเดิน 5 นาทีทุกชั่วโมง : ตั้งนาฬิกาเตือนให้ลุกจากเก้าอี้ทุกๆ 1 ชั่วโมง เพื่อเดินไปมา ยืดเส้นยืดสาย หรือเดินไปดื่มน้ำ การเคลื่อนไหวจะช่วยให้กล้ามเนื้อที่เกร็งค้างได้ผ่อนคลาย และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด รวมถึงช่วยลดความเมื่อยล้าจากการนั่งนานๆ

  • เปลี่ยนอิริยาบถการทำงาน : หากเป็นไปได้ ลองสลับระหว่างการนั่งและยืนทำงาน โดยใช้โต๊ะทำงานแบบปรับระดับได้ หรือใช้อุปกรณ์ช่วยยกจอคอมพิวเตอร์ให้สูงขึ้น เพื่อให้สามารถยืนทำงานได้ การเปลี่ยนอิริยาบถจะช่วยลดแรงกดทับที่หมอนรองกระดูกสันหลัง และช่วยให้กล้ามเนื้อได้ทำงานในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น

 

บริหารกล้ามเนื้อระหว่างวันทำท่าบริหารง่ายๆ ที่สามารถทำได้ขณะนั่งทำงาน

  • หมุนไหล่เป็นวงกลมช้าๆ ทั้งไปข้างหน้าและข้างหลัง 10 ครั้ง
  • หมุนคอเบาๆ เป็นวงกลม 5 รอบในแต่ละทิศทาง
  • ยกไหล่ขึ้นค้างไว้ 5 วินาที แล้วปล่อย ทำซ้ำ 10 ครั้ง
  • ยืดแขนไปด้านหน้า แล้วยกขึ้นเหนือศีรษะ ค้างไว้ 10 วินาที
  • แอ่นหลังเล็กน้อย โดยเอามือทั้งสองข้างดันที่เอว ค้างไว้ 5-10 วินาที

 


3. ออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ

          กล้ามเนื้อแกนกลาง (Core muscles) ซึ่งประกอบด้วยกล้ามเนื้อหน้าท้อง กล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง และกล้ามเนื้อสะโพก มีหน้าที่สำคัญในการรักษาสมดุลและท่าทางของร่างกาย การมีกล้ามเนื้อแกนกลางที่แข็งแรงจะช่วยรองรับน้ำหนักตัวและลดแรงกดทับที่กระดูกสันหลัง ทำให้สามารถนั่งได้อย่างมั่นคงและลดความเสี่ยงในการเกิดอาการปวดหลัง การออกกำลังกายเหล่านี้ควรทำเป็นประจำอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ และควรเริ่มต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะหากไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ

  • ท่า Plank : เป็นท่าที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อแกนกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเริ่มจากการนอนคว่ำ ยกตัวขึ้นโดยใช้ปลายเท้าและแขนท่อนล่าง (ข้อศอกและแขนท่อนล่างวางบนพื้น) รักษาร่างกายให้เป็นแนวตรงจากศีรษะถึงส้นเท้า ค้างไว้ 20-30 วินาที ทำ 3-5 ครั้ง

  • ท่าสะพาน : ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อสะโพกและหลังส่วนล่าง โดยเริ่มจากการนอนหงาย งอเข่าทั้งสองข้าง วางเท้าราบกับพื้น จากนั้นยกสะโพกขึ้นให้ร่างกายเป็นแนวตรงจากไหล่ถึงเข่า ค้างไว้ 10-15 วินาที ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง

  • ท่าซุปเปอร์แมน : ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง โดยเริ่มจากการนอนคว่ำ แขนเหยียดตรงไปด้านหน้า ขาเหยียดตรง จากนั้นยกแขนและขาขึ้นพร้อมกัน ค้างไว้ 3-5 วินาที แล้วลดลง ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง

  • ท่าบิดตัว : ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อด้านข้างลำตัว โดยนั่งบนเก้าอี้ หลังตรง เท้าวางราบกับพื้น จากนั้นบิดลำตัวไปทางซ้าย โดยใช้มือขวาจับที่ด้านนอกของเข่าซ้าย และมือซ้ายจับพนักเก้าอี้ด้านหลัง ค้างไว้ 10-15 วินาที แล้วทำสลับด้าน ทำด้านละ 5-10 ครั้ง


4. จัดสภาพแวดล้อมการทำงานให้เหมาะสม

          สภาพแวดล้อมในการทำงานมีผลต่อท่าทางและความเครียดของร่างกายอย่างมาก การจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมจะช่วยลดความเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของออฟฟิศซินโดรม การจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมอาจต้องลงทุนบ้างในระยะแรก แต่จะช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพในระยะยาว ซึ่งคุ้มค่ากว่าการรักษาเมื่อเกิดอาการแล้ว

  • แสงสว่าง : แสงสว่างที่เหมาะสมจะช่วยลดความเครียดของดวงตาและการปวดศีรษะ ควรจัดให้มีแสงสว่างเพียงพอ แต่ไม่จ้าเกินไป หลีกเลี่ยงแสงสะท้อนจากจอคอมพิวเตอร์ โดยจัดตำแหน่งของจอให้ตั้งฉากกับหน้าต่างหรือแหล่งกำเนิดแสง หากจำเป็นอาจใช้ม่านกรองแสงหรือฟิล์มกรองแสงสำหรับหน้าจอ 

  • อุณหภูมิและการระบายอากาศ : อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการทำงานอยู่ที่ประมาณ 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิที่ร้อนหรือเย็นเกินไปจะทำให้ร่างกายเกิดความเครียด และอาจทำให้กล้ามเนื้อเกร็งตัวมากขึ้น นอกจากนี้ ควรมีการระบายอากาศที่ดี เพื่อให้มีออกซิเจนเพียงพอ และลดการสะสมของฝุ่นละออง 

  • เสียง : เสียงรบกวนเป็นสาเหตุสำคัญของความเครียด ซึ่งอาจทำให้กล้ามเนื้อเกร็งตัวมากขึ้น หากทำงานในพื้นที่ที่มีเสียงรบกวนมาก อาจใช้หูฟังตัดเสียงรบกวน (Noise-cancelling headphones) หรือใช้เพลงที่มีจังหวะช้า เสียงธรรมชาติ หรือเสียงขาวช่วยกลบเสียงรบกวน

  • การจัดวางอุปกรณ์ที่ใช้บ่อย : จัดวางอุปกรณ์ที่ใช้บ่อยให้อยู่ในระยะที่สามารถเอื้อมถึงได้โดยไม่ต้องเอี้ยวหรือบิดตัวมากเกินไป เช่น โทรศัพท์ สมุดโน้ต ปากกา ควรอยู่ในระยะเอื้อม และจัดวางให้อยู่ในตำแหน่งที่สมมาตรกัน เพื่อไม่ให้ร่างกายต้องทำงานหนักไปข้างใดข้างหนึ่ง


5. ดูแลสุขภาพองค์รวมทั้งร่างกายแข็งแรงและด้านความเครียด

           ความเครียดทำให้กล้ามเนื้อเกร็งตัวและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอาการปวดเมื่อย ควรหาวิธีผ่อนคลายความเครียดที่เหมาะกับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการทำกิจกรรมที่มีความสุข จะช่วยให้จิตใจผ่อนคลายและลดความเครียดได้ หรือการออกกำลังกายเช่น เดิน วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน ช่วยลดความเครียดและเพิ่มการหลั่งสารเอนดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข การฝึกสมาธิหรือโยคะแม้เพียง 10-15 นาทีต่อวัน ก็สามารถช่วยลดความเครียดได้เช่นกัน


สรุป

          เราไม่สามารถซื้อสุขภาพที่ดีได้ ถ้าเราไม่ลงทุนเวลาดูแลสุขภาพของตัวเอง ไม่ว่าจะวุ่นวายแค่ไหน อย่าลืมหาเวลาให้ร่างกายและจิตใจของเราบ้าง เพราะสุดท้ายแล้ว การมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ต่างหากที่จะทำให้เรามีพลังในการทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ และมีความสุขกับชีวิตในระยะยาว การป้องกันและแก้ไขออฟฟิศซินโดรมไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ปรับเปลี่ยนนิสัยและพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวัน ทั้งการจัดสรรเวลาให้กับการออกกำลังกาย ยืดเหยียดร่างกาย หรือแม้กระทั่งการพักสายตาเป็นระยะๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพื่อสุขภาพที่ดีของเราในระยะยาว

 


Related Content
Spinal Cord Stimulation, SCS, การกระตุ้นไขสันหลังด้วยไฟฟ้า, เซเปี้ยนซ์, sapienspainhospital, sapiens
An advanced innovation for chronic pain relief, restoring your quality of life and the joy of movement through spinal cord stimulation technology
8 Oct 2025
Failed Back Surgery Syndrome , FBSS, ปวดร้าวลงขาหลัง, ปวดหลังผ่าตัด, ปวดหลัง
Have you ever had back surgery, but the pain still remains — or comes back not long after the operation? This condition isn’t uncommon. It’s known as “Failed Back Surgery Syndrome (FBSS).
8 Oct 2025
Pelvic Endometriosis, ปวดท้องเม้นท์, ปวดประจำเดือน, ปวดท้อง, เซเปี้ยนซ์, นาตยา
โรคนี้เกิดจากการที่เนื้อเยื่อคล้ายเยื่อบุโพรงมดลูก (endometrial-like tissue) เจริญเติบโตอยู่นอกโพรงมดลูก เช่น บริเวณรังไข่ ท่อนำไข่ พังผืดในอุ้งเชิงกราน หรือแม้กระทั่งที่ผนังลำไส้หรือกระเพาะปัสสาวะ
31 Aug 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Privacy Policy and Cookies Policy
Compare product
0/4
Remove all
Compare
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy