เนื่องจาก บางครั้งผู้ป่วยที่เข้ามารับบริการที่โรงพยาบาลเซเปี้ยนซ์ เช่น คนที่ซื้อ package ไม่ได้พบแพทย์ก่อนมาทำกายภาพบำบัด หรือการส่งปรึกษากายภาพบำบัด นักกายภาพบำบัดมักจะเป็นผู้ประเมินแผนการรักษา หรือเครื่องมือในการรักษาเอง

กายภาพบำบัดด้วยเครื่องมือไฟฟ้า (Physical Therapy - Treatment)

เหมาะกับการรักษา อาการปวดตึงกล้ามเนื้อ เอ็นอักเสบ จากการเคลื่อนไหวผิดท่า กีฬา หรือ ออฟฟิศซินโดรม

1. Ultrasound Therapy การบำบัดด้วยคลื่นอัลตราซาวด์

เป็นการรักษาโดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูง ที่ทำให้เกิดความร้อนเข้าไปกระตุ้นกล้ามเนื้อชั้นลึก

• ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่มีการหดเกร็ง
• ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดในบริเวณที่เกิดอาการบาดเจ็บ
• ช่วยลดอาการปวด บวม อักเสบ และตึงตัวของกล้ามเนื้อ
• ช่วยเร่งการซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ได้รับบาดเจ็บ

2. RF/TECAR Therapy Therapy การรักษาด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง

การรักษาด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง (Radiofrequency - RF) ซึ่งย่อมาจาก Transfer of Energy Capacitive and Resistive (TECAR) เป็นการใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุ กระตุ้นโมเลกุลและสร้างความร้อนภายในร่างกายผู้ป่วย ลึกถึงระดับเซลล์์ เพื่อช่วยบรรเทาอาการบาดเจ็บ

• ช่วยบรรเทาการบาดเจ็บหรือปวดในกล้ามเนื้อ และข้อต่อ
• ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่มีการตึงตัวสูง
• ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อ
• ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง
• ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นกีฬาและการฟื้นตัว

3. Shockwave Therapy การรักษาด้วยคลื่นกระแทก

เป็นการรักษาโดยใช้คลื่นกระแทกส่งผ่านผิวหนังไปยังบริเวณที่มีอาการบาดเจ็บ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเกิดกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อใหม่

• ช่วยกระตุ้นการสร้างหลอดเลือดใหม่ และเพิ่มการไหลเวียนของเลือด
• ช่วยสลายปมและพังผืดในกล้ามเนื้อที่แข็งตัว ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวลงได้
• ช่วยสลายแคลเซียม หรือหินปูนที่ยึดเกาะในเส้นเอ็น และกล้ามเนื้อ
• ช่วยลดอาการปวดเรื้อรังที่บริเวณข้อต่อ เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อ

4. Electrical Stimulation การกระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้า

เป็นการใช้กระแสไฟฟ้าจากเครื่องมือเพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อหรือเส้นประสาท ส่งผ่านอิเล็กโทรดบนผิวหนัง เพื่อบรรเทาอาการปวด และฟื้นฟูกล้ามเนื้อกับเส้นประสาท

• ช่วยกระตุ้นการหดตัวของกล้ามเนื้อเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่อ่อนแรง
• ช่วยลดอาการปวดโดยไม่ต้องใช้ยา เนื่องจากสามารถปิดกั้นสัญญาณความเจ็บปวดไม่ให้ไปถึงสมอง
• ช่วยฟื้นฟูรูปแบบการเคลื่อนไหวใหม่
• ช่วยลดอาการบวมและอักเสบ
• ช่วยชะลอการฝ่อลีบของกล้ามเนื้อ

5. High-power Laser Therapy การรักษาด้วยคลื่นแสงเลเซอร์กำลังสูง

เป็นการรักษาด้วยเลเซอร์กำลังสูงที่สามารถเจาะเข้าไปในเนื้อเยื่อชั้นลึก เพื่อกระตุ้นให้เซลล์ที่บาดเจ็บมีการสร้างพลังงาน (ATP) เพื่อใช้ในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และช่วยลดปริมาณสารที่ก่อให้เกิดอาการอักเสบได้

• ช่วยลดอาการปวด บวม และอักเสบ
• ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อ ทำให้บาดแผลหายเร็วขึ้น
• ช่วยกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมกระดูก ทำให้กระดูกที่หัก หรือร้าวติดได้เร็วขึ้น
• ช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมเส้นประสาท
• ช่วยลดอาการปวด และชาร้าวร่วมด้วย

6. Pilates Rehabilitation พิลาทิสบำบัด

การออกกำลังกายที่เน้นการสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core muscles) โดยไม่มีแรงกระแทก (Low Impact) ควบคู่กับการหายใจที่ถูกต้อง และเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย

• ช่วยปรับบุคลิกภาพ การเคลื่อนไหวร่างกาย และปรับสมดุลร่างกายให้เหมาะสม
• ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
• ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย
• ช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อจากท่าทางที่ไม่เหมาะสม หรืออาการจากออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome)

นอกจากนี้

รพ.เซเปี้ยนซ์ มีการดูแลในผู้ที่มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ผู้ป่วยหลังผ่าตัดที่ต้องการการฟื้นฟู ผู้สูงอายุที่ต้องการเพิ่มความสามารถในการใช้ชีวิตประจำวัน และผู้ป่วยระยะประคับประคองร่วมด้วย

หมายเหตุ

การออกกำลังกาย การเลือกใช้เครื่องมือ หรืออุปกรณ์ต่างๆจะอยู่ภายใต้การดูแลของนักกายภาพบำบัดวิชาชีพ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้เหมาะสมกับอาการของผู้ป่วยแต่ละราย

กายภาพบำบัด​โดยไม่ใช่เครื่องมือไฟฟ้า (Rehabilitation)

การกายภาพบำบัดประเภทนี้ เป็นการเน้นฟื้นฟูสภาพร่างกาย โดยเฉพาะผู้ที่พักฟื้นการผ่าตัด คนไข้พักฟื้นจากสโตรก (sroke)-อาการข้างเคียงเส้นเลือดในสมอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเคลื่อนไหวร่างกาย ฝึกทักษะการตอบสนอง ลดอาการพังผืดบริเวณแผลผ่าตัด

การกายภาพบำบัด แบบฟื้นฟูร่างกาย โดยเฉพาะผู้ที่พักฟืนหลังการผ่าตัด สามารถรับการรักษาได้หลากหลายรูปแบบ เช่น

• การฝึกสมดุลร่างกาย ​และการทรงตัว (balance)
• การยืดเส้น คลายกล้ามเนื้อ (stretching)
• การ
• ฝึกทักษะการใช้ชีวิต ทักษะการตอบสนอง
• คำแนะนำการดูแลในบ้าน

โดยสามารถใช้บริการทั้งรูปแบบของ ผู้ป่วยใน (ระหว่างการพักรักษาใน รพ.) หรือ ในฐานะผู้ป่วยนอก