Share

ปวดใบหน้าเรื้อรัง เกิดจากอะไร? วิธีรักษาให้ตรงจุด

Last updated: 27 May 2025

อาการปวดใบหน้าเป็นอาการที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตคนที่มีอาการอย่างมาก แม้ดูเหมือนเป็นอาการไม่ร้ายแรง แต่เพราะว่าอาการมันไม่รุนแรงนี่แหละจึงส่งผลต่อสุขภาพจิต เพราะต้องทนปวดซ้ำๆ ทำให้เครียด หงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน ไม่สดชื่น รบกวนการทำกิจวัตรประจำวัน ไม่ว่าจะการรับประทานอาหาร การพูดคุย ยิ้ม หัวเราะ การนอนหลับ ถ้าปวดเรื้อรังเป็นระยะเวลานานอยู่เป็นเดือนหรือเป็นปี ทำให้ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการอย่างต่อเนื่อง หากคุณกำลังเจออาการปวดบนในหน้า คงสงสัยใช่ไหมว่าความเจ็บปวดนั้นมาจากไหน? และต้องจัดการกับอาการปวดหน้าอย่างไรมาหาคำตอบด้วยกันเลย!

 

เข้าใจอาการปวดหน้าเรื้อรังว่าคืออะไร

อาการปวดใบหน้าเรื้อรังหมายถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นบริเวณใบหน้าอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งอาการนี้ยังไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยวิธีทั่วไปหรือไม่หายขาด แม้พักผ่อนหรือรับประทานยาแก้ปวด ลักษณะความเจ็บปวดอาจมีลักษณะแตกต่างกันไป เช่น ปวดแบบตื้อๆ ปวดแปลบ ปวดเหมือนถูกแทง หรือปวดแสบร้อน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสาเหตุและประเภทของสาเหตุอาการ โดยความเจ็บปวดอาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่บริเวณขมับ กราม แก้ม ขากรรไกร รอบดวงตา หรือบริเวณอื่นๆ ของใบหน้า แต่มีหลายๆกรณีที่อาการปวดหน้าเรื้อรังมักเกิดจาก ความผิดปกติของระบบประสาทดังนั้นจึงจำเป็นต้องวินิจฉัยหาสาเหตุให้ชัดเจนเพื่อรักษาได้ตรงจุด

 

ลักษณะของอาการปวดหน้าเรื้อรัง

  • อาการปวดอาจเกิดขึ้นเป็นประจำทุกวันหรือเป็นช่วงๆ แต่จะเกิดขึ้นซ้ำๆ เป็นเวลานาน บางครั้งอาจมีช่วงที่ปวดรุนแรงสลับกับช่วงที่อาการทุเลาลง
  • ระดับความเจ็บปวดอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ตั้งแต่ปวดเล็กน้อยที่รบกวนชีวิตประจำวัน ไปจนถึงปวดรุนแรงจนทำให้ไม่สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้
  • อาการปวดอาจถูกกระตุ้นด้วยปัจจัยต่างๆ เช่น การเคี้ยวอาหาร การพูด การสัมผัส อากาศเย็น หรือแม้แต่ความเครียด

 

สาเหตุของอาการปวดหน้าเรื้อรัง

อาการปวดใบหน้าเรื้อรังสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของอวัยวะต่างๆ บริเวณใบหน้า ศีรษะ และลำคอ เรามาดูว่ามีสาเหตุใดบ้างที่เป็นสาเหตุของอาการที่พบได้บ่อย

 

  • โรคในช่องปากและฟัน : ปัญหาทางทันตกรรม เช่น ฟันผุ โรคเหงือก การติดเชื้อในรากฟัน หรือแม้แต่เนื้องอกในช่องปาก สามารถส่งผลให้เกิดอาการปวดร้าวมายังบริเวณใบหน้าได้ ในบางครั้ง อาการปวดอาจคงอยู่แม้ได้รับการรักษาทางทันตกรรมแล้ว หรืออาจเป็นอาการปวดต่างที่ซึ่งมีต้นเหตุจากบริเวณอื่นแต่ส่งผลให้รู้สึกปวดที่ฟันหรือใบหน้า

 

  • โรคของกระดูกใบหน้า : ความผิดปกติที่ข้อต่อขากรรไกร (Temporomandibular Joint Dysfunction - TMD) เป็นสาเหตุหนึ่งที่พบได้ โดยอาจเกิดจากการใช้งานข้อต่อขากรรไกรที่ผิดปกติหรือมากเกินไป การสบฟันที่ผิดปกติ หรือการบาดเจ็บ ซึ่งนำไปสู่อาการปวดบริเวณกราม ขมับ หรือแก้ม

 

  • โรคของต่อมน้ำลาย : การอักเสบ การติดเชื้อ หรือการเกิดนิ่วในต่อมน้ำลาย อาจทำให้เกิดอาการปวดและบวมบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณหน้าหูหรือใต้ขากรรไกร

 

  • โรคไซนัส : ไซนัสอักเสบ ทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง มักทำให้เกิดอาการปวดตื้อๆ บริเวณใบหน้า โดยเฉพาะหน้าผาก โหนกแก้ม หรือรอบดวงตา ร่วมกับอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล การรักษาไซนัสอักเสบสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดหน้าได้

 

  • โรคปวดเส้นประสาทใบหน้า (Trigeminal Neuralgia) : เป็นสาเหตุสำคัญของอาการปวดใบหน้าเรื้อรัง เกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาทสมองคู่ที่ 5 ซึ่งทำหน้าที่รับความรู้สึกบนใบหน้าและควบคุมกล้ามเนื้อที่ใช้เคี้ยว สาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากมีเส้นเลือดไปกดทับเส้นประสาท แต่ก็อาจเกิดจากเนื้องอก ซีสต์ โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง หรือการบาดเจ็บได้ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดแปลบคล้ายไฟฟ้าช็อตหรือเข็มแทงที่ใบหน้าซีกใดซีกหนึ่ง อาการมักเกิดฉับพลัน เป็นช่วงสั้นๆ แต่เกิดซ้ำๆ ตลอดวัน และอาจถูกกระตุ้นจากการสัมผัสเบาๆ เช่น ล้างหน้า แปรงฟัน เคี้ยวอาหาร หรือแม้แต่ลมพัด 

 

  • โรคใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก : เกิดจากการอักเสบของเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรงครึ่งซีก แม้อาการเด่นคือใบหน้าเบี้ยว แต่บางครั้งอาจมีอาการปวดร่วมด้วย โดยเฉพาะบริเวณหลังหู ก่อนที่อาการอ่อนแรงจะปรากฏ

 

  • โรคทางหลอดเลือด : ภาวะหลอดเลือดแดงขมับอักเสบ เป็นการอักเสบของหลอดเลือดแดงขนาดกลางและใหญ่ โดยเฉพาะที่บริเวณขมับ ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ ปวดบริเวณขมับ หรือปวดหน้า มักพบในผู้สูงอายุ และอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือปัญหาการมองเห็น

 

  • โรคทางจิตเวช : ภาวะทางอารมณ์ เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล หรือภาวะซึมเศร้า สามารถส่งผลให้เกิดอาการปวดตามร่างกาย รวมถึงอาการปวดใบหน้าได้ หรืออาจทำให้อาการปวดจากสาเหตุอื่นรุนแรงขึ้น

 

อาการปวดหน้าเรื้อรังแบบไหนที่เราควรพบแพทย์

  • อาการปวดรุนแรงและมีลักษณะเฉพาะ : หากคุณมีอาการปวดแปลบอย่างเฉียบพลันและรุนแรงที่ใบหน้าซีกใดซีกหนึ่ง ซึ่งอาจรู้สึกคล้ายถูกไฟฟ้าช็อต เข็มทิ่ม หรือปวดแสบร้อน 
  • มีสิ่งกระตุ้นอาการปวดที่ชัดเจน : อาการปวดที่ถูกกระตุ้นได้ง่ายจากการสัมผัสเพียงเบาๆ บนใบหน้า หรือจากกิจวัตรประจำวัน
  • อาการปวดเรื้อรังที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาเบื้องต้น : หากคุณได้ลองรักษาตามสาเหตุที่สงสัยเบื้องต้น เช่น รักษาปัญหาทางทันตกรรม หรือใช้ยาแก้ปวดทั่วไปแล้วแต่อาการปวดใบหน้ายังไม่ทุเลาลงหรือหายไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและแนวทางการรักษาอื่น ๆ
  • ความรุนแรงหรือความถี่ของอาการปวดเพิ่มขึ้น : หากสังเกตว่าอาการปวดหน้าเกิดขึ้นบ่อยครั้งขึ้น หรือระดับความรุนแรงของอาการปวดเพิ่มมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ควรเข้ารับการตรวจวินิจฉัย
  • อาการคล้ายปวดฟันแต่ตรวจไม่พบสาเหตุเมื่อเราไปพบหมอฟันแล้ว : ในบางราย อาการปวดจากเส้นประสาทใบหน้าอาจทำให้รู้สึกคล้ายปวดฟันหรือเหงือกอย่างรุนแรง หากได้พบทันตแพทย์และตรวจไม่พบความผิดปกติใดๆ ในช่องปาก ควรพิจารณาถึงสาเหตุอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ปัญหาจากฟัน 

แนวทางการรักษาอาการปวดหน้าเรื้อรังโดยการทำหัตถการระงับปวด

สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการปวดหน้าเรื้อรังรุนแรง หรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา อาจพิจารณาการทำหัตถการเพื่อระงับปวด ซึ่งเป็นเทคนิคที่มุ่งเป้าไปที่การยับยั้งหรือปรับเปลี่ยนสัญญาณความปวดจากเส้นประสาทโดยตรง การฉีดยาชาเฉพาะที่ (Local Anesthetic Injection) : ฉีดยาชาบริเวณเส้นประสาทหรือจุดที่ปวดเพื่อบรรเทาอาการชั่วคราว หรือเพื่อช่วยในการวินิจฉัย

  • การบล็อกเส้นประสาท (Nerve Block) : ฉีดยาชาและ/หรือยาสเตียรอยด์เข้าใกล้เส้นประสาทที่เป็นสาเหตุของความปวด เพื่อระงับอาการปวดเป็นระยะเวลานานขึ้น
  • จี้เส้นประสาทด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (Radiofrequency Ablation) : ใช้ความร้อนจากคลื่นวิทยุทำลายเส้นประสาทที่ส่งสัญญาณความปวด 
  • ฉีด Botulinum Toxin : อาจใช้เพื่อลดอาการปวดที่เกิดจากการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ ในบางกรณี 
  • การกระตุ้นเส้นประสาทด้วยไฟฟ้า : เป็นการฝังอุปกรณ์เพื่อให้กระแสไฟฟ้ากระตุ้นเส้นประสาทส่วนปลาย หรือไขสันหลัง เพื่อปรับเปลี่ยนสัญญาณความปวดก่อนส่งไปถึงสมอง 


สรุป

อาการปวดหน้าเรื้อรังเป็นภาวะที่ซับซ้อนและมีสาเหตุได้หลากหลาย ตั้งแต่ปัญหาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการไม่หนักมาก จนถึงความผิดปกติของเส้นประสาทที่ส่งผลหนักต่อร่างกาย แต่ยังไงเราอยากแนะนำให้ยังไงแล้ว หากพบว่ามีอาการเจ็บผ่านมาหลายวันแล้ว แล้วไม่ดีขึ้น ก็อยากให้รีบไปพบแพทย์ทันทีเพราะ หากปล่อยไว้โดยไม่ดูแล อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ได้ ก็ขอให้ทุกคนห่างไกลจากอาการเจ็บปวด


Related Content
Pelvic Endometriosis, ปวดท้องเม้นท์, ปวดประจำเดือน, ปวดท้อง, เซเปี้ยนซ์, นาตยา
โรคนี้เกิดจากการที่เนื้อเยื่อคล้ายเยื่อบุโพรงมดลูก (endometrial-like tissue) เจริญเติบโตอยู่นอกโพรงมดลูก เช่น บริเวณรังไข่ ท่อนำไข่ พังผืดในอุ้งเชิงกราน หรือแม้กระทั่งที่ผนังลำไส้หรือกระเพาะปัสสาวะ
31 Aug 2025
ปวดท้องน้อย, ปวดประจำเดือน, หมอนาตยา
อาการปวดท้องน้อยจากการมีประจำเดือน Primary Dysmenorrhea เกิดจากการสร้างสาร prostaglandin มากกว่าปกติ ส่งผลให้กล้ามเนื้อมดลูกหดรัดตัวรุนแรง เกิดอาการปวดเกร็ง ถ่ายเหลว หรือคลื่นไส้
21 Aug 2025
เทนนิส, กีฬา, เซเปี้ยนซ์
โรงพยาบาลเซเปี้ยนซ์ ในฐานะผู้นำด้านเวชศาสตร์การกีฬาและการระงับปวดเฉพาะทาง มองเห็นว่า การรักษาที่ดี ต้องเริ่มจากความเข้าใจ biomechanic และ pain pathway ที่ถูกต้อง
4 Aug 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Privacy Policy and Cookies Policy
Compare product
0/4
Remove all
Compare
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy