Share

ปวดข้อ ปวดเข่าในผู้สูงวัย กับทางเลือกการรักษาที่เหมาะสม

Last updated: 4 Apr 2025

          ปวดข้อ ปวดเข่า ความเจ็บปวดที่ไม่ได้เป็นเพียงอาการทางกาย แต่กลายเป็นอุปสรรคขวางกั้นอิสรภาพในการใช้ชีวิตของผู้สูงวัยจำนวนมาก วัยที่เพิ่มขึ้นไม่เพียงนำพาประสบการณ์ชีวิต แต่ยังพาเอาความเสื่อมถอยของร่างกายตามกาลเวลา อาการปวดข้อ ปวดเข่าในผู้สูงอายุไม่ใช่แค่สัญญาณของวัยที่ล่วงผ่าน แต่คือเสียงร้องของร่างกายที่สะท้อนทั้งความเสื่อมตามธรรมชาติ และผลพวงจากพฤติกรรมที่สะสมมาหลายสิบปี เราจึงเขียนบทความวันนี้เพื่อให้คุณได้ทำความรู้จักกับอาการปวดข้อและปวดเข่าในผู้สูงอายุมากยิ่งขึ้น

สาเหตุของอาการปวดข้อและปวดเข่าในผู้สูงอายุ

เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ ระบบกระดูกและข้อต่อย่อมเกิดการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ ส่งผลให้หลายคนประสบปัญหาอาการปวดข้อหรือปวดเข่าซึ่งรบกวนคุณภาพชีวิต โดยสาเหตุหลักมักเกี่ยวข้องกับ ความเสื่อมสภาพของโครงสร้างข้อต่อ ที่สะสมมานาน ร่วมกับปัจจัยเสี่ยงด้านพฤตินิสัยหรือโรคประจำตัวที่เร่งให้อาการรุนแรงขึ้น ประเภทของอาการปวดที่พบจะแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ ปวดเฉียบพลัน ซึ่งมักเกิดจากการบาดเจ็บกะทันหัน เช่น ข้อพลิก เอ็นอักเสบ และการปวดแบบเรื้อรัง ซึ่งเกี่ยวข้องกับโรคข้อเสื่อมหรือโรคประจำตัว เช่น ข้อเข่าเสื่อม ภาวะกระดูกพรุน ที่ทำให้ปวดตื้อๆ เป็นระยะนานหลายสัปดาห์

 

สาเหตุทั่วไปของอาการปวดข้อและเข่า

  • ข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis) : เป็นสาเหตุที่พบมากที่สุด เกิดจากการสึกกร่อนของกระดูกอ่อนหุ้มข้อต่อตามวัย ทำให้ข้อเคลื่อนไหวลำบาก มีอาการปวดตื้อหรือปวดฉับพลันเมื่อใช้งาน โดยเฉพาะข้อเข่าและข้อสะโพก นอกจากนี้ การเสื่อมของหมอนรองกระดูก และ ปัญหาข้อต่อกระดูกสันหลัง ก็เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเสื่อมสภาพที่พบได้บ่อย

  • การบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุในอดีต : เช่น ข้อเคลื่อน เอ็นหรือกล้ามเนื้อฉีกขาด หากรักษาไม่เต็มที่อาจทิ้งความผิดปกติของโครงสร้างข้อต่อ นำไปสู่การอักเสบเรื้อรังหรือข้อเสื่อมก่อนวัย

  • โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) : เป็นโรคภูมิต้านตนเองที่ทำให้ข้ออักเสบแบบเรื้อรัง เกิดการทำลายข้อต่อทั้งสองข้างพร้อมกัน มักมีอาการปวดร่วมกับข้อบวมแดงและเคลื่อนไหวลำบาก

  • พฤติกรรมการใช้ข้อต่อไม่เหมาะสม : เช่น การยกของหนักซ้ำๆ การนั่งพับเพียบหรือคุกเข่านานๆ รวมถึงท่าทางผิดสุขลักษณะขณะยืนหรือเดิน ส่งผลให้ข้อรับน้ำหนักเกินและเสื่อมเร็ว

  • ปัจจัยอื่นๆ : ร่างกายเสื่อมตามวัยที่บริเวณกระดูกอ่อนและน้ำหล่อเลี้ยงข้อต่อลดลงตามธรรมชาติ หรืออาจจะเป็นผลมาจากร่างกายมีน้ำหนักเกิน และไปเพิ่มแรงกดทับข้อเข่าและกระดูกสันหลัง ส่วนปัจจัยปัจจัยอื่นๆ ได้แก่พันธุกรรม มีประวัติบาดเจ็บซ้ำๆ หรือการสูบบุหรี่ที่เร่งการสลายมวลกระดูก


ผลกระทบของอาการปวดข้อและปวดเข่าในผู้สูงอายุ

อาการปวดข้อและปวดเข่าในผู้สูงอายุเป็นปัญหาสุขภาพที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก โดยอาการหลักที่พบได้แก่ ปวดข้อเวลาขยับ เคลื่อนไหวลำบาก และข้อบวมหรือฝืด ซึ่งอาการเหล่านี้ทำให้ผู้สูงอายุมีข้อจำกัดในการทำกิจกรรมประจำวัน เช่น การเดิน การขึ้นลงบันได หรือการทำงานบ้าน ส่งผลให้เกิดความรู้สึกไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ และลดการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม ความปวดเรื้อรังที่เกิดขึ้นยังสัมพันธ์กับความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า ซึ่งเป็นผลจากความทุกข์ทรมานทางกายและจิตใจที่สะสม อันนำไปสู่การลดลงของคุณภาพชีวิตโดยรวม


ทางเลือกในการรักษาอาการปวดข้อและปวดเข่าแบบไม่ผ่าตัด

แม้ว่าการผ่าตัดจะเป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษา แต่ปัจจุบันมีวิธีการรักษาแบบไม่ผ่าตัดหลากหลายที่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการปวดและฟื้นฟูการทำงานของข้อได้ ทางเลือกเหล่านี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการไม่รุนแรงจนเกินไป ทางเลือกในการรักษาแบบไม่ผ่าตัดมีหลายประเภทซึ่งสามารถปรับให้เหมาะกับความต้องการของผู้ป่วยแต่ละราย

การรักษาด้วยยา : การรักษาด้วยยาเป็นวิธีการพื้นฐานที่ช่วยบรรเทาอาการปวดและลดการอักเสบของข้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยาที่ใช้ในการรักษามีหลายกลุ่ม ได้แก่

  • ยาแก้ปวด (พาราเซตามอล) : เป็นตัวเลือกแรกสำหรับอาการปวดเล็กน้อยถึงปานกลาง มีผลข้างเคียงน้อยแต่ประสิทธิภาพในการลดการอักเสบต่ำ
  • ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) : ช่วยลดทั้งอาการปวดและการอักเสบได้ดี แต่อาจมีผลข้างเคียงต่อระบบทางเดินอาหารและไต หากใช้เป็นเวลานาน
  • ยากลุ่มปรับสารสื่อประสาท : ช่วยลดความปวดที่เกิดจากความผิดปกติของระบบประสาท โดยเฉพาะกรณีที่มีอาการปวดร่วมกับอาการชา หรือรู้สึกเหมือนมีไฟฟ้าช็อต


การทำกายภาพบำบัด : การทำกายภาพบำบัดเป็นวิธีการรักษาที่มุ่งเน้นการฟื้นฟูการทำงานของข้อและเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อ ซึ่งช่วยลดอาการปวดและป้องกันการบาดเจ็บซ้ำได้เป็นอย่างดี

  • การออกกำลังกายเสริมความแข็งแรง : โดยเฉพาะการทำ Core Strengthening เพื่อเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว ช่วยลดแรงกดบนข้อต่อและช่วยให้การทรงตัวดีขึ้น
  • การใช้เครื่องมือเฉพาะทาง : เช่น คลื่นกระแทก (Shock Wave), เลเซอร์กำลังสูง, อัลตราซาวด์, การกระตุ้นด้วยไฟฟ้า (TENS) และการประคบร้อน ช่วยลดอาการปวดและกระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหาย
  • การปรับท่าทางและการเคลื่อนไหว : นักกายภาพบำบัดจะแนะนำวิธีการเคลื่อนไหวที่ถูกต้องเพื่อลดแรงกดบนข้อและป้องกันการบาดเจ็บเพิ่มเติม


การฉีดยา : การฉีดยาเข้าข้อหรือบริเวณที่มีอาการปวดเป็นวิธีการรักษาที่ให้ผลเร็วและมีประสิทธิภาพในการลดอาการปวดเฉพาะจุด มีหลายทางเลือก

  • การฉีดสเตียรอยด์เข้าข้อ : ช่วยลดการอักเสบได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการอักเสบรุนแรง แต่ไม่ควรฉีดบ่อยเกินไปเนื่องจากอาจมีผลข้างเคียง เช่น ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น กดการทำงานของภูมิคุ้มกัน หรือทำให้เกิดการสึกหรอของกระดูกอ่อนในระยะยาว
  • การฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) : เป็นการนำเลือดของผู้ป่วยมาสกัดเอาเฉพาะส่วนที่มีเกล็ดเลือดเข้มข้น แล้วฉีดกลับเข้าไปในข้อที่เสื่อมสภาพ เพื่อกระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและลดการอักเสบ
  • การฉีดไฮยาลูโรนิก แอซิด : เป็นการฉีดสารหล่อลื่นเข้าข้อเพื่อเพิ่มความหล่อลื่นและลดแรงเสียดทานในข้อเข่าที่เสื่อมสภาพ ช่วยบรรเทาอาการปวดและปรับปรุงการทำงานของข้อ


การใช้สเต็มเซลล์บำบัด : สเต็มเซลล์เป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์เฉพาะชนิดต่างๆ ได้ ทำให้สามารถนำมาใช้ในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อบริเวณข้อเข่าที่เสียหายหรือเสื่อมสภาพได้

  • หลักการทำงาน : สเต็มเซลล์ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูกระดูกอ่อนที่เสื่อมสภาพ ลดการอักเสบ และกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ 
  • แหล่งที่มา : สเต็มเซลล์อาจได้มาจากไขกระดูกของผู้ป่วยเอง เนื้อเยื่อไขมัน หรือรก (จากการบริจาค)
  • ข้อควรพิจารณา : แม้ว่าการรักษาด้วยสเต็มเซลล์จะมีแนวโน้มผลลัพธ์ที่ดี แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัยและพัฒนาในหลายประเทศ และอาจมีค่าใช้จ่ายสูง


การรักษาด้วยคลื่นความถี่สูง

  • การใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงเป็นเทคนิคที่ใช้สำหรับระงับการนำสัญญาณความปวดจากเส้นประสาทไปยังสมอง คลื่นวิทยุเพื่อระงับการนำสัญญาณความปวด (Radiofrequency Neurotomy): เป็นการใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงเพื่อเปลี่ยนเป็นความร้อนไปที่เส้นประสาทที่เลี้ยงข้อต่อกระดูกสันหลัง เพื่อระงับการนำสัญญาณความปวด ช่วยลดอาการปวดได้นานโดยเฉลี่ย 8-10 เดือน และสามารถทำซ้ำได้เมื่ออาการปวดกลับมา เป็นการรักษาที่มีความปลอดภัยสูง ใช้เวลาในการทำหัตถการไม่นาน และสามารถกลับบ้านได้ในวันเดียวกัน


ทางเลือกในการรักษาอาการปวดข้อและปวดเข่าด้วยการผ่าตัด

การผ่าตัดเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษาอาการปวดข้อและปวดเข่าสำหรับผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบประคับประคอง การตัดสินใจเลือกวิธีการผ่าตัดจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความรุนแรงของโรคข้อเข่าเสื่อม อายุของผู้ป่วย และระดับกิจกรรม ซึ่งทางเลือกในการผ่าตัดที่นิยมใช้คือ

  • การเปลี่ยนข้อเข่าเทียม : การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมเป็นวิธีการรักษามาตรฐานสำหรับผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมระยะสุดท้ายที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบอื่น ศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดเอาผิวกระดูกอ่อนและกระดูกที่เสียหายออก และใส่ข้อเข่าเทียมที่ทำจากโลหะและพลาสติกเข้าไปแทนที่ 

  • การแก้ไขตำแหน่งกระดูก (Osteotomy) : การผ่าตัดแก้ไขตำแหน่งกระดูก หรือที่เรียกว่า Osteotomy เป็นการผ่าตัดที่ปรับแนวของกระดูกหน้าแข้ง (Tibia) เพื่อลดแรงกดบนส่วนที่สึกของข้อเข่า วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีข้อเข่าเสื่อมเพียงด้านเดียวของข้อเข่า ศัลยแพทย์จะทำการตัดกระดูกและจัดเรียงใหม่ เพื่อให้แรงกดถ่ายเทไปยังส่วนที่ยังดีของข้อเข่า 


ผู้ที่มีปัญหาปวดข้อต้องดูแลตนเองอย่างไร

ผู้ที่มีปัญหาปวดข้อควรดูแลตนเองด้วยการควบคุมน้ำหนักเพื่อลดแรงกดที่ข้อต่อ โดยเฉพาะข้อเข่า ควรเลือกออกกำลังกายให้เหมาะสม เช่น ว่ายน้ำหรือโยคะ จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อต่อได้ ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เพิ่มความเสี่ยงต่อข้อต่อ อย่างเช่นการนั่งพับเพียบหรือนั่งไขว่ห้างเป็นเวลานาน โดยให้เน้นไปที่การปรับเปลี่ยนอิริยาบถในชีวิตประจำวันบ่อยครั้ง และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อข้อและกระดูก อีกหนึ่งข้อเล็กๆ ที่อยากจะแนะนำคือเราควรเลือกใช้รองเท้าที่เหมาะสมและหลีกเลี่ยงรองเท้าส้นสูงสามารถช่วยลดแรงกดบนข้อต่อได้

สรุป

ท้ายที่สุดนี้ การดูแลสุขภาพข้อเข่าในผู้สูงอายุเป็นสิ่งที่เราควรใส่ใจมากๆ เพราะคุณภาพชีวิตที่ดีของเขา ส่วนหนึ่งก็มาจากที่เขาสามารถใช้ชีวิตอย่างปกติได้ สามารถเดินเคลื่อนไหวด้วยตัวเองได้ โดยปัจจุบันมีทางเลือกการรักษาที่หลากหลาย อย่ารอจนอาการรุนแรง เพราะการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้นดังนั้นการปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อวางแผนรักษาอย่างตรงจุด แม้มีปัญหาข้อเข่า แต่เราอยากให้คิดว่า ความปวดไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่มันคือสัญญาณให้หันมาใส่ใจสุขภาพข้ออย่างจริงจัง เพราะทุกช่วงวัยของชีวิตสมควรได้รับการดูแลให้เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระและมีความสุข


Related Content
Pelvic Endometriosis, ปวดท้องเม้นท์, ปวดประจำเดือน, ปวดท้อง, เซเปี้ยนซ์, นาตยา
โรคนี้เกิดจากการที่เนื้อเยื่อคล้ายเยื่อบุโพรงมดลูก (endometrial-like tissue) เจริญเติบโตอยู่นอกโพรงมดลูก เช่น บริเวณรังไข่ ท่อนำไข่ พังผืดในอุ้งเชิงกราน หรือแม้กระทั่งที่ผนังลำไส้หรือกระเพาะปัสสาวะ
31 Aug 2025
ปวดท้องน้อย, ปวดประจำเดือน, หมอนาตยา
อาการปวดท้องน้อยจากการมีประจำเดือน Primary Dysmenorrhea เกิดจากการสร้างสาร prostaglandin มากกว่าปกติ ส่งผลให้กล้ามเนื้อมดลูกหดรัดตัวรุนแรง เกิดอาการปวดเกร็ง ถ่ายเหลว หรือคลื่นไส้
21 Aug 2025
เทนนิส, กีฬา, เซเปี้ยนซ์
โรงพยาบาลเซเปี้ยนซ์ ในฐานะผู้นำด้านเวชศาสตร์การกีฬาและการระงับปวดเฉพาะทาง มองเห็นว่า การรักษาที่ดี ต้องเริ่มจากความเข้าใจ biomechanic และ pain pathway ที่ถูกต้อง
4 Aug 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Privacy Policy and Cookies Policy
Compare product
0/4
Remove all
Compare
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy