แชร์

ปวดคอ ท้ายทอย อาการที่สะท้อนถึงปัญหากระดูกและกล้ามเนื้อ

อัพเดทล่าสุด: 26 พ.ค. 2025

         อาการปวดคอและท้ายทอยไม่ใช่เพียงแค่ความไม่สบายที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน แต่แท้จริงแล้วมันสะท้อนถึงสภาวะที่ซับซ้อนในระบบกระดูกและกล้ามเนื้อของร่างกาย หากคุณเคยรู้สึกปวดจี๊ดๆ หรือปวดตุบๆ ในบริเวณท้ายทอย คุณอาจกำลังเผชิญกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อ เส้นประสาท หรือแม้กระทั่งกระดูกสันหลังที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตโดยตรง ซึ่งหากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้องท้ายสุดก็จะทำให้เกิดอาการที่หนักตามมาได้เนื้อหาบทความนี้จะพาทุกคนไปดูสาเหตุที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังอาการปวดคอและท้ายทอย จะมีอะไรบ้างนั้นติดตามกันได้


มารู้จักกายวิภาคของคอและท้ายทอย

เพื่อให้เข้าใจถึงสาเหตุของอาการปวดคอและท้ายทอยได้ดียิ่งขึ้น ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างและกายวิภาคของบริเวณคอและท้ายทอยก่อน

โครงสร้างกระดูกคอ

  • กระดูกคอประกอบด้วยกระดูกสันหลังส่วนคอ (Cervical Vertebrae) จำนวน 7 ชิ้น เรียกว่า C1-C7 แต่ละชิ้นมีลักษณะเฉพาะและทำหน้าที่แตกต่างกัน
  • C1 (กระดูกแอตลาส) - รองรับน้ำหนักของกะโหลกศีรษะ ช่วยให้สามารถส่ายหน้าได้
  • C2 (กระดูกแอกซิส) - มีปุ่มยื่นขึ้นไปสู่ C1 ทำให้สามารถหมุนศีรษะได้
  • C3-C7 - ทำหน้าที่รองรับน้ำหนักและช่วยในการเคลื่อนไหวของคอ
  • ระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละชิ้นจะมีหมอนรองกระดูก (Intervertebral Discs) ทำหน้าที่เป็นเบาะรองรับแรงกระแทกและช่วยให้คอสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างนุ่มนวล


กล้ามเนื้อบริเวณคอและท้ายทอย

          บริเวณคอและท้ายทอยมีกล้ามเนื้อมากมายที่ทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวและรักษาความมั่นคงของศีรษะ กล้ามเนื้อสำคัญในบริเวณนี้ กล้ามเนื้อทราพีเซียสที่เชื่อมต่อจากกะโหลกศีรษะลงไปยังกระดูกสะบักและกระดูกสันหลัง ช่วยในการยกไหล่และหมุนศีรษะ ,กล้ามเนื้อ Sternocleidomastoid ที่อยู่ด้านข้างของคอ ช่วยในการหันศีรษะและก้มศีรษะ ,กล้ามเนื้อ Splenius อยู่ที่ด้านหลังของคอ ช่วยในการเงยหน้าและหมุนศีรษะ และสุดท้ายกล้ามเนื้อ Levator Scapulae ที่จะเชื่อมต่อจากกระดูกคอไปยังกระดูกสะบัก ช่วยในการยกกระดูกสะบัก


เส้นประสาทและหลอดเลือด

  • เส้นประสาทสมองคู่ที่ 11 (Accessory Nerve) : ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อทราพีเซียสและสเตอร์โนไคลโดมาสตอยด์

  • เส้นประสาทไขสันหลังส่วนคอ (Cervical Spinal Nerves) : มีทั้งหมด 8 คู่ ทำหน้าที่รับความรู้สึกและควบคุมการเคลื่อนไหวของคอและแขน

  • หลอดเลือดแดงคาโรติด (Carotid Arteries) : ส่งเลือดไปเลี้ยงสมอง
  • หลอดเลือดแดงเวอร์ทีบรัล (Vertebral Arteries) : ผ่านทางกระดูกคอและส่งเลือดไปเลี้ยงสมองส่วนหลัง


อาการปวดคอและท้ายทอยแสดงออกมาอย่างไร


  • ปวดตื้อๆ บริเวณคอและท้ายทอย
  • ปวดร้าวไปยังศีรษะ ไหล่ หรือแขน
  • คอขยับลำบาก หรือรู้สึกฝืด
  • กล้ามเนื้อคอและไหล่เกร็งและตึง
  • ปวดเมื่อขยับศีรษะหรือคอ
  • ปวดศีรษะบริเวณท้ายทอย


สาเหตุของอาการปวดคอและท้ายทอย

1. อิริยาบถไม่เหมาะสม

การอยู่ในท่าทางที่ไม่ถูกต้องเป็นเวลานาน เช่น การก้มหน้าดูโทรศัพท์มือถือ (Text Neck) การนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์โดยไม่มีการพักหรือปรับเปลี่ยนท่าทาง และการนอนในท่าที่ไม่เหมาะสม เช่น หมอนสูงหรือต่ำเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อคอและท้ายทอยต้องทำงานหนักเพื่อรักษาตำแหน่งของศีรษะ ส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยได้

2. ความเครียดและความวิตกกังวล

ความเครียดและความวิตกกังวลทำให้กล้ามเนื้อบริเวณคอและไหล่เกร็งตัว เมื่อเกร็งตัวเป็นเวลานานจะทำให้เกิดอาการปวดได้ บางคนเมื่อเครียดจะมีอาการขบฟัน ซึ่งส่งผลให้กล้ามเนื้อขากรรไกรและคอตึงเครียดได้เช่นกัน

3. การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ

การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะจากอุบัติเหตุรถยนต์ ,ล้ม หรือการกระแทกบริเวณศีรษะและคอ สามารถทำให้เกิดอาการปวดคอและท้ายทอยได้ทันที หรือในบางกรณีอาจเกิดอาการหลังจากเกิดอุบัติเหตุไปแล้วหลายวัน

4. โรคข้อเสื่อม 

เมื่ออายุมากขึ้น กระดูกและข้อต่อในร่างกายจะเกิดการเสื่อมสภาพตามธรรมชาติ ในกรณีของกระดูกคอ เมื่อเกิดการเสื่อมสภาพจะทำให้เกิดการอักเสบและการสร้างกระดูกงอก ซึ่งไปกดทับเส้นประสาทและเนื้อเยื่ออ่อนในบริเวณนั้น ทำให้เกิดอาการปวดคอและท้ายทอย

5. หมอนรองกระดูกเคลื่อน

หมอนรองกระดูกทำหน้าที่เป็นเบาะรองรับแรงกระแทกระหว่างกระดูกสันหลัง เมื่อเกิดการเคลื่อนหรือปลิ้นออกมาจากตำแหน่งปกติ จะไปกดทับเส้นประสาทที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ทำให้เกิดอาการปวดร้าวจากคอลงไปยังไหล่และแขน บางรายอาจมีอาการชาร่วมด้วย

6. โรคกระดูกสันหลังตีบ

เป็นภาวะที่ช่องกระดูกสันหลังส่วนคอแคบลง ทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาทไขสันหลัง มักพบในผู้สูงอายุ และอาจทำให้เกิดอาการปวดคอ ท้ายทอย และมีอาการชาหรืออ่อนแรงของแขนและขาร่วมด้วย

7. เกิดจากสาเหตุอื่นๆ

เช่นภาวะเนื้องอกหรือมะเร็ง แม้จะพบได้ไม่บ่อย แต่เนื้องอกหรือมะเร็งที่เกิดขึ้นในบริเวณกระดูกสันหลัง เส้นประสาท หรือเนื้อเยื่ออื่นๆ ในบริเวณคอ ก็สามารถทำให้เกิดอาการปวดคอและท้ายทอยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาทั่วไปได้ อาการปวดศีรษะบางประเภทมักมีอาการปวดร้าวลงมาที่คอและท้ายทอย ที่เจอบ่อยๆ เช่นไมเกรน และปวดศีรษะแบบคลัสเตอร์ ซึ่งมักจะมีอาการปวดศีรษะข้างเดียวและปวดร้าวลงมาที่คอและท้ายทอยเช่นกัน ในบางกรณีภาวะที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทอัตโนมัติ สามารถทำให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย รวมถึงบริเวณคอและท้ายทอยได้


อาการปวดคอและท้ายทอยอย่างไรที่เราควรพบแพทย์

  • ปวดคอและท้ายทอยรุนแรงหลังได้รับบาดเจ็บ
  • มีอาการชา อ่อนแรง หรือรู้สึกเสียวซ่าที่แขนหรือขา
  • ปวดคอร่วมกับมีไข้สูง ปวดศีรษะรุนแรง คอแข็ง
  • ปวดคอที่ไม่ดีขึ้นหลังจากพักผ่อนหรือใช้ยาแก้ปวดทั่วไป
  • มีปัญหาในการควบคุมการขับถ่ายหรือปัสสาวะ
  • มีปัญหาด้านการทรงตัวหรือการเดิน
  • อาการปวดที่แย่ลงเมื่อนอนราบ


เราจะป้องกันและดูแลตัวอย่างไรให้ห่างไกลจากอาการปวดคอและท้ายทอย

การป้องกันและดูแลตนเองเพื่อลดความเสี่ยงของภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทสามารถทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เริ่มต้นจากการจัดท่าทางให้ถูกต้อง ทั้งในการนั่งทำงาน โดยให้หน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ในระดับสายตา นั่งตัวตรง และใช้เก้าอี้ที่รองรับหลังและคออย่างเหมาะสม รวมถึงการใช้โทรศัพท์มือถือโดยยกขึ้นระดับสายตาแทนการก้มมอง และเลือกท่านอนที่ถูกต้องพร้อมหมอนที่รองรับสรีระคอได้ดี 

เพิ่มเติมคือให้เราออกกำลังกายเป็นประจำ ทั้งการยืดกล้ามเนื้อคอและไหล่ การเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อคอและหลังส่วนบน อาจจะเล่นแอโรบิก หรือว่ายน้ำ ก็ช่วยได้เช่นกัน เราควรทำไปควบคู่กับการจัดการความเครียดด้วยเทคนิคผ่อนคลาย รักษาสมดุลระหว่างการทำงานและการพักผ่อน การดูแลสุขภาพโดยรวม รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อุดมด้วยแคลเซียม วิตามินดี และสารต้านอนุมูลอิสระ ดื่มน้ำให้เพียงพอ และการหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ซึ่งส่งผลเสียต่อการไหลเวียนเลือดไปยังหมอนรองกระดูก

สรุป

ท้ายสุดวันนี้เราแนะนำว่าการป้องกันโรคภัยที่ดีที่สุดคือการไม่ให้เกิดโรคภัยขึ้นมาในตอนแรก ซึ่งจะเกิดได้จากวินัยของเราที่ทำได้ผ่านการดูแลสุขภาพที่ดี มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ถูกสุขลักษณะ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การจัดการความเครียด และการดูแลสุขภาพทั่วไป หากมีอาการปวดคอและท้ายทอยที่รุนแรง มีอาการแสดงของระบบประสาท หรืออาการที่ไม่ดีขึ้นหลังจากการรักษาเบื้องต้น ควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม


บทความที่เกี่ยวข้อง
Pelvic Endometriosis, ปวดท้องเม้นท์, ปวดประจำเดือน, ปวดท้อง, เซเปี้ยนซ์, นาตยา
โรคนี้เกิดจากการที่เนื้อเยื่อคล้ายเยื่อบุโพรงมดลูก (endometrial-like tissue) เจริญเติบโตอยู่นอกโพรงมดลูก เช่น บริเวณรังไข่ ท่อนำไข่ พังผืดในอุ้งเชิงกราน หรือแม้กระทั่งที่ผนังลำไส้หรือกระเพาะปัสสาวะ
31 ส.ค. 2025
ปวดท้องน้อย, ปวดประจำเดือน, หมอนาตยา
อาการปวดท้องน้อยจากการมีประจำเดือน Primary Dysmenorrhea เกิดจากการสร้างสาร prostaglandin มากกว่าปกติ ส่งผลให้กล้ามเนื้อมดลูกหดรัดตัวรุนแรง เกิดอาการปวดเกร็ง ถ่ายเหลว หรือคลื่นไส้
21 ส.ค. 2025
เทนนิส, กีฬา, เซเปี้ยนซ์
โรงพยาบาลเซเปี้ยนซ์ ในฐานะผู้นำด้านเวชศาสตร์การกีฬาและการระงับปวดเฉพาะทาง มองเห็นว่า การรักษาที่ดี ต้องเริ่มจากความเข้าใจ biomechanic และ pain pathway ที่ถูกต้อง
4 ส.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy