Share

หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ทางเลือกการรักษาอื่นนอกจากผ่าตัด

Last updated: 27 May 2025

อาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเป็นปัญหาสุขภาพที่คนที่มีอาการจะส่งลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างแน่นอน เพราะจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับความสามารถในการเคลื่อนไหวของเรา ยังมีหลายคนที่ยังเข้าใจผิดว่ามันรุนแรงขนาดที่ว่าเราจำเป็นต้องรักษาโดยวิธีการผ่าตัดเสมอไปเพื่อที่จะบรรเทาความเจ็บปวดด้วย แต่ในความเป็นจริงยังมีทางเลือกการรักษาอื่นนอกจากผ่าตัด ซึ่งเนื้อหาวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกัน

 

ภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทคืออะไร?

 

หมอนรองกระดูกเป็นโครงสร้างที่อยู่คั่นกลางระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละข้อ ทำหน้าที่เหมือนโช้คอัพ ช่วยรองรับแรงกระแทกและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กระดูกสันหลัง ระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละข้อจะมี หมอนรองกระดูก ลักษณะคล้ายฟองน้ำ ทำหน้าที่รองรับแรงกระแทกและช่วยให้กระดูกสันหลังเคลื่อนไหวได้อย่างยืดหยุ่น 

ลักษณะของหมอนรองกระดูกเปรียบได้กับโดนัทเยลลี่ คือมีเปลือกนอกที่แข็งแรงเป็นเส้นใย หุ้มส่วนแกนกลางที่มีลักษณะคล้ายเจล ภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เกิดขึ้นเมื่อเปลือกนอกของหมอนรองกระดูกเกิดการฉีกขาดหรือเสื่อมสภาพ ทำให้ส่วนที่เป็นเจลแกนกลางเคลื่อนตัวหรือปลิ้นออกมา ก้อนที่ปลิ้นออกมานี้อาจไปกดเบียดเส้นประสาทไขสันหลัง หรือรากประสาทที่อยู่ใกล้เคียง 

การกดทับเส้นประสาทนี้เองคือสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น อาการปวด ชา หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงตามแนวเส้นประสาทที่ถูกกดทับ โดยตำแหน่งที่พบบ่อยที่สุดคือบริเวณกระดูกสันหลังส่วนเอว แต่ก็สามารถเกิดขึ้นที่กระดูกสันหลังส่วนคอได้เช่นกัน

อาการที่พบบ่อย

  • อาการปวดเฉพาะที่ : ปวดหลังบริเวณเอวส่วนล่าง ซึ่งอาจปวดเรื้อรัง ไม่หายขาด หรือปวดมากขึ้นเมื่อยืนนานๆ
  • อาการปวดร้าว : ปวดร้าวลงไปยังสะโพก ต้นขาด้านหลัง น่อง หรือเท้า ตามแนวเส้นประสาทที่ถูกกดทับ
  • อาการทางระบบประสาท : ชา อ่อนแรง หรือรู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่ม บริเวณขาหรือเท้าที่เส้นประสาทนั้นไปเลี้ยง ในกรณีรุนแรง อาจมีปัญหาเกี่ยวกับการควบคุมการขับถ่าย ซึ่งถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรีบพบแพทย์

สาเหตุของภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

ภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ซึ่งโดยหลักแล้วมักเกี่ยวข้องกับการเสื่อมสภาพของหมอนรองกระดูก หรือเกิดจากแรงกดดันและการใช้งานกระดูกสันหลังที่ไม่เหมาะสม จนส่งผลให้ส่วนประกอบภายในของหมอนรองกระดูกเคลื่อนตัวออกมากดเบียดเส้นประสาท

ความเสื่อมของหมอนรองกระดูกตามวัย

อายุที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลให้หมอนรองกระดูกเริ่มสูญเสียความยืดหยุ่นและปริมาณน้ำภายใน ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพในการรองรับแรงกระแทกลดลง เปลือกนอกที่หุ้มหมอนรองกระดูก อาจอ่อนแอลง เกิดการฉีกขาดหรือมีรูรั่ว ทำให้ส่วนเนื้อเยื่อคล้ายเจลด้านใน สามารถเคลื่อนปลิ้นออกมาได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ การสูบบุหรี่ยังเป็นปัจจัยเร่งให้หมอนรองกระดูกเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ

การใช้งานกระดูกสันหลังและท่าทางที่ไม่เหมาะสม

พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่ส่งผลต่อกระดูกสันหลังโดยตรงเป็นเวลานานและซ้ำๆ เป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่ง ตัวอย่างเช่น การก้มยกของหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการบิดเอี้ยวตัวร่วมด้วย จะเพิ่มแรงกดดันต่อหมอนรองกระดูกสันหลังอย่างมาก การนั่งทำงานหรือขับรถติดต่อกันเป็นเวลานานในท่าทางที่ไม่เหมาะสม ทำให้กระดูกสันหลังส่วนเอวต้องรับน้ำหนักมากอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพบได้บ่อยในกลุ่มคนวัยทำงาน กิจกรรมที่ต้องก้มๆ เงยๆ หลังเป็นประจำ หรือการทำงานที่ต้องใช้แรงกายมาก

การบาดเจ็บและแรงกระแทก

อุบัติเหตุที่กระทบกระเทือนต่อกระดูกสันหลังโดยตรง เช่น การหกล้ม หรือการได้รับแรงกระแทกจากการเล่นกีฬา สามารถทำให้หมอนรองกระดูกเกิดการฉีกขาดและปลิ้นออกมาได้ แม้แต่การไอหรือจามแรงๆ อย่างกะทันหัน ก็สามารถเพิ่มแรงดันภายในหมอนรองกระดูกจนทำให้เกิดการปลิ้นได้เช่นกัน

ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ

  • น้ำหนักตัวเกิน : การมีน้ำหนักตัวมากเกินไปจะเพิ่มภาระให้กระดูกสันหลังต้องรับน้ำหนักมากขึ้น ส่งผลต่อหมอนรองกระดูกโดยตรง
  • อายุและเพศ : ภาวะนี้มักพบได้บ่อยในผู้ที่มีอายุระหว่าง 30-50 ปี และมีสถิติพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง
  • การสูบบุหรี่ : การสูบบุหรี่ทำให้เลือดไหลเวียนไปยังหมอนรองกระดูกลดลง และเกิดการเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ

ทางเลือกการรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด

สำหรับในบางกรณีของผู้ที่มีอาการภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เราสามารถมีอาการดีขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด โดยจะขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์สามารถฟื้นฟูสมรรถภาพการทำงานของร่างกายให้กลับมาเป็นปกติหรือใกล้เคียงปกติมากที่สุด

  • การรักษาด้วยการฉีดสเตียรอยด์เข้าโพรงกระดูกสันหลัง : เป็นการฉีดคอร์ติโคสเตียรอยด์เข้าไปยังบริเวณรอบเส้นประสาทไขสันหลัง เพื่อลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดร้าวลงขาที่รุนแรง อาจต้องฉีดซ้ำ 1-2 ครั้ง โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนการรักษาที่ครอบคลุม ซึ่งต้องรักษาภายใต้แพทย์เฉพาะทาง
  • การฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) หรือสเต็มเซลล์ (BMC) : เป็นกลุ่มการรักษาแบบฟื้นฟู โดยใช้เลือดหรือไขกระดูกของผู้ป่วยเองมาสกัดเอาเกล็ดเลือดเข้มข้น หรือเซลล์ต้นกำเนิด แล้วฉีดเข้าไปบริเวณที่บาดเจ็บ เพื่อกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมตามธรรมชาติของร่างกาย
  • การรักษาด้วยเครื่องมือทางกายภาพบำบัด : เช่น การใช้อัลตราซาวด์, เลเซอร์, การกระตุ้นไฟฟ้า เพื่อลดปวด, การดึงหลัง เพื่อลดแรงกดในข้อกระดูกสันหลัง
  • การปรับพฤติกรรมและท่าทาง : ให้ความรู้และคำแนะนำในการปรับท่าทางในชีวิตประจำวัน การทำงาน และการยกของให้ถูกต้อง เพื่อลดภาระต่อกระดูกสันหลัง
  • ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) :  ที่มีฤทธิ์ทั้งลดปวดและลดการอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการปวดจากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท 

 

สรุปสิ่งที่หลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

หลายคนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทในหลายประเด็น เช่น เชื่อว่าต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเท่านั้น ซึ่งจริง ๆ แล้ว กว่า 2 ใน 3 ของผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นได้เอง โดยไม่ต้องผ่าตัด โดยเฉพาะเมื่อรับการรักษาแบบประคับประคอง เช่น การใช้ยา การทำกายภาพบำบัด หรือการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ส่วนการผ่าตัดนั้นเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่มีอาการรุนแรง เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรงลงเรื่อย ๆ หรือมีปัญหาในการควบคุมการขับถ่ายเท่านั้น อีกทั้งยังมีผู้เข้าใจว่าภาวะนี้เกิดจากการยกของหนักเพียงอย่างเดียว 


แต่ความจริงอาจมาจากปัจจัยหลากหลาย ทั้งการนั่งผิดท่าเป็นเวลานาน อุบัติเหตุเล็กน้อยซ้ำ ๆ หรือความเสื่อมตามวัย แม้แต่ความเชื่อที่ว่าหากเส้นประสาทถูกกดทับจะทำให้เป็นอัมพาตทันทีก็ไม่ถูกต้อง เนื่องจากอาการส่วนใหญ่เริ่มจากปวดร้าว ชา หรืออ่อนแรง ซึ่งรักษาได้หากได้รับการดูแลที่เหมาะสม นอกจากนี้ การพักผ่อนเพียงอย่างเดียวไม่ช่วยให้หายขาด แต่ควรเคลื่อนไหวร่างกายและออกกำลังกายอย่างถูกวิธีเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพ ในส่วนของอายุก็เป็นอีกประเด็นที่คนมักสับสน เนื่องจากภาวะนี้เกิดได้กับคนทุกวัย โดยวัยทำงานที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น นั่งนานหรือยกของผิดท่า ก็มีโอกาสเกิดได้ไม่น้อยไปกว่าผู้สูงอายุ ดังนั้น การรู้เท่าทันความเข้าใจผิดเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงแนวทางรักษาที่ถูกต้อง และใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพโดยไม่ต้องกังวลเกินจำเป็น

 

 

 


Related Content
Pelvic Endometriosis, ปวดท้องเม้นท์, ปวดประจำเดือน, ปวดท้อง, เซเปี้ยนซ์, นาตยา
โรคนี้เกิดจากการที่เนื้อเยื่อคล้ายเยื่อบุโพรงมดลูก (endometrial-like tissue) เจริญเติบโตอยู่นอกโพรงมดลูก เช่น บริเวณรังไข่ ท่อนำไข่ พังผืดในอุ้งเชิงกราน หรือแม้กระทั่งที่ผนังลำไส้หรือกระเพาะปัสสาวะ
31 Aug 2025
ปวดท้องน้อย, ปวดประจำเดือน, หมอนาตยา
อาการปวดท้องน้อยจากการมีประจำเดือน Primary Dysmenorrhea เกิดจากการสร้างสาร prostaglandin มากกว่าปกติ ส่งผลให้กล้ามเนื้อมดลูกหดรัดตัวรุนแรง เกิดอาการปวดเกร็ง ถ่ายเหลว หรือคลื่นไส้
21 Aug 2025
เทนนิส, กีฬา, เซเปี้ยนซ์
โรงพยาบาลเซเปี้ยนซ์ ในฐานะผู้นำด้านเวชศาสตร์การกีฬาและการระงับปวดเฉพาะทาง มองเห็นว่า การรักษาที่ดี ต้องเริ่มจากความเข้าใจ biomechanic และ pain pathway ที่ถูกต้อง
4 Aug 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Privacy Policy and Cookies Policy
Compare product
0/4
Remove all
Compare
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy