Share

สเตียรอยด์มีทั้งคุณและโทษ ฉีดรักษาอาการอักเสบได้ แต่ต้องใช้ให้ถูกต้อง

Last updated: 3 Jul 2025
วิธีการรักษาที่ทรงพลังและรวดเร็วซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการอักเสบได้ คือการฉีดสเตียรอยด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการในทางการแพทย์ในการลดการอักเสบและความเจ็บปวดอย่างมีประสิทธิภาพ แล้วเมื่อไหร่ที่การฉีดสเตียรอยด์เป็นทางออกที่เหมาะสม? การใช้สเตียรอยด์ทั้งคุณและโทษอย่างไร และปลอดภัยไหม? บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกถึงกลไกการทำงานของการฉีดสเตียรอยด์เรื่องราวเบื้องหลังเข็มรักษาที่คุณควรรู้

 

สเตียรอยด์ฉีดรักษาอาการอักเสบคืออะไร

สเตียรอยด์ฉีดรักษาอาการอักเสบ หรือที่เรียกอีกชื่อว่า คอร์ติโคสเตียรอยด์ชนิดฉีด เป็นยาที่มีฤทธิ์ลดการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว เพื่อลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดเฉพาะจุด โดยออกฤทธิ์โดยตรงที่บริเวณที่มีอาการอักเสบหรือเจ็บปวด ยานี้ถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคหรืออาการต่างๆ ได้หลากหลาย โดยเฉพาะอาการอักเสบเรื้อรังในระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ เช่น ข้ออักเสบ เอ็นอักเสบ หรือปลอกเส้นประสาทอักเสบ การฉีดสเตียรอยด์เข้าเฉพาะจุดนี้มีข้อดีคือสามารถส่งยาไปยังบริเวณที่มีปัญหาได้โดยตรง ทำให้ได้ผลการรักษาที่ดีกว่าและลดผลข้างเคียงต่อร่างกายโดยรวมเมื่อเทียบกับการรับประทานยา

 

กลไกการทำงานของสเตียรอยด์

กลไกหลักของสเตียรอยด์คือการยับยั้งกระบวนการอักเสบภายในร่างกาย เมื่อเนื้อเยื่อได้รับบาดเจ็บ ร่างกายจะหลั่งสารสื่ออักเสบ (Inflammatory mediators) ซึ่งเป็นสารเคมีที่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบ สเตียรอยด์จะเข้าไปขัดขวางกระบวนการนี้ โดยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสารสื่ออักเสบ ส่งผลให้อาการบวม แดง ร้อน และปวด ซึ่งเป็นลักษณะของการอักเสบลดลงได้ การออกฤทธิ์ของยาสเตียรอยด์ชนิดฉีดมักเริ่มต้นภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังการฉีด และอาจคงอยู่ได้นานหลายวันถึงหลายสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับชนิดของยาและความรุนแรงของอาการ

กลไกการบรรเทาอาการปวด

  • ลดแรงกดทับบนเส้นประสาท : ในกรณีการฉีดเข้าโพรงกระดูกสันหลัง สเตียรอยด์จะช่วยลดอาการบวมบริเวณรากประสาทที่ถูกกดทับจากหมอนรองกระดูกหรือกระดูกงอก ทำให้ลดแรงกดทับและบรรเทาอาการปวด
  • ยับยั้งการส่งสัญญาณปวด : สเตียรอยด์มีฤทธิ์ลดการหลั่งสารสื่อประสาทที่เกี่ยวข้องกับการส่งสัญญาณความปวด ทำให้สมองรับรู้ความเจ็บปวดน้อยลง
  • ลดการตอบสนองของเซลล์ภูมิคุ้มกัน : สเตียรอยด์ยับยั้งการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกันที่หลั่งสารก่อการอักเสบในบริเวณที่มีการบาดเจ็บ


การฉีดสเตียรอยด์ใช้รักษาอะไรได้บ้าง

การฉีดสเตียรอยด์เป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพสำหรับโรคและอาการปวดเรื้อรังหลายชนิด โดยเฉพาะอาการที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบและความเจ็บปวดของระบบกระดูกและข้อต่อ สามารถบรรเทาอาการปวดได้เมื่อฉีดเข้าไปยังตำแหน่งที่มีการอักเสบโดยตรง วิธีการนี้ช่วยให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยาสเตียรอยด์ชนิดรับประทาน เนื่องจากเป็นการใช้ยาเฉพาะที่ในปริมาณน้อย ทำให้การดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดมีน้อยกว่า โดยทางโรงพยาบาลเซเปี้ยนซ์ จะยกกรณีที่ได้มีการใช้วิธีการฉีดสเตียรอยด์ในกรณีต่อไปนี้

การฉีดเข้าข้อต่อกระดูกสันหลัง

การฉีดสเตียรอยด์เข้าข้อต่อกระดูกสันหลังเป็นทางเลือกการรักษาสำหรับผู้ที่มีอาการปวดคอ ปวดหลังบริเวณสะบัก หรือปวดหลังส่วนล่างเรื้อรัง ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเสื่อมหรือการอักเสบของข้อต่อกระดูกสันหลัง หรือโรคข้อต่อกระดูกสันหลังเสื่อม วิธีการรักษานี้แพทย์จะใช้เครื่องเอกซเรย์ เพื่อนำทางในการฉีดยาสเตียรอยด์ร่วมกับยาชาเฉพาะที่เข้าไปยังข้อต่อที่มีปัญหาโดยตรง ทำให้ยาสามารถลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การฉีดเข้าช่องโพรงกระดูกสันหลัง

การฉีดสเตียรอยด์เข้าช่องโพรงกระดูกสันหลังเป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการปวดคอร้าวลงแขน หรือปวดหลังร้าวลงขาจากการอักเสบของรากประสาท วิธีการนี้เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนกดทับเส้นประสาท ภาวะโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ หรือการอักเสบของรากประสาทจากสาเหตุอื่นๆ โดยแพทย์จะฉีดยาสเตียรอยด์เข้าไปในช่องว่างระหว่างเยื่อหุ้มไขสันหลังกับผนังของโพรงกระดูกสันหลัง ซึ่งเป็นบริเวณที่รากประสาทผ่านออกมา การรักษานี้ช่วยลดการอักเสบของรากประสาทโดยตรง

ประโยชน์ของการฉีดสเตียรอยด์

การฉีดสเตียรอยด์มีประโยชน์หลายประการในการรักษาอาการปวดและอักเสบเรื้อรังในผู้ป่วยที่มีปัญหาข้อต่อ กล้ามเนื้อ หรือเส้นเอ็น โดยเฉพาะในกรณีที่การรักษาอื่นๆ ไม่ได้ผล การฉีดยาเข้าสู่บริเวณที่มีอาการโดยตรงช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดได้อย่างรวดเร็ว และคงอยู่ได้นานหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของผู้ป่วย การฉีดสเตียรอยด์ยังช่วยลดการพึ่งพายาแก้อักเสบชนิดรับประทาน ลดผลข้างเคียงต่อระบบอื่นๆ ของร่างกาย และช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปทำกายภาพบำบัดหรือกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังเป็นทางเลือกในการชะลอหรือหลีกเลี่ยงการผ่าตัดในบางกรณี เช่น หมอนรองกระดูกเคลื่อนเล็กน้อย

ผลข้างเคียงของการฉีดสเตียรอยด์รักษาอาการอักเสบ

การฉีดสเตียรอยด์อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ในบางกรณี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาการที่ไม่รุนแรงและเกิดขึ้นชั่วคราว โดยความเสี่ยงและความรุนแรงของผลข้างเคียงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ปริมาณยา ความถี่ในการฉีด และสภาพสุขภาพของผู้ป่วย ผู้ป่วยจึงควรรับทราบข้อมูลเพื่อเตรียมพร้อมสังเกตอาการ และปรึกษาแพทย์หากพบความผิดปกติ โดยผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่

  • อาการปวดบวมบริเวณที่ฉีดยา : อาจมีอาการเจ็บหรือบวมเล็กน้อยหลังฉีดยา ซึ่งมักหายได้เองภายใน 1-2 วัน หากอาการไม่ทุเลาหรือรุนแรงขึ้น ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบ
  • ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นชั่วคราว : โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวาน สเตียรอยด์อาจส่งผลให้ควบคุมระดับน้ำตาลได้ยากขึ้นในช่วง 24-48 ชั่วโมงหลังฉีด แนะนำให้ตรวจวัดน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ
  • กดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและต่อมหมวกไต : การฉีดสเตียรอยด์อาจทำให้ร่างกายตอบสนองต่อการติดเชื้อช้าลงชั่วคราว รวมถึงอาจรบกวนการทำงานของต่อมหมวกไต ซึ่งมักกลับสู่ปกติภายในไม่กี่วัน
  • ผลต่อกระดูกหากฉีดบ่อยเกินไป : การใช้สเตียรอยด์ในปริมาณสูงหรือติดต่อกันนาน อาจส่งผลให้กระดูกบางลงหรือเกิดภาวะกระดูกพรุนได้ แพทย์จึงมักควบคุมความถี่และปริมาณยาตามความจำเป็น
  • ผลข้างเคียงอื่นๆ ในระยะสั้น : เช่น หน้าแดง รู้สึกร้อนวูบวาบ นอนไม่หลับ หรืออารมณ์แปรปรวน มักเกิดขึ้นไม่นานและหายได้เอง


สรุป : การใช้สเตียรอยด์ฉีดรักษาอาการอักเสบปลอดภัยไหม

การฉีดสเตียรอยด์เพื่อรักษาอาการอักเสบจัดเป็นวิธีการที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเมื่อปฏิบัติตามวิธีการทางการแพทย์ที่ถูกต้อง โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะประเมินสภาพผู้ป่วยอย่างละเอียด พร้อมใช้เทคโนโลยีถ่ายภาพ เช่น เอกซเรย์หรือ MRI ช่วยกำหนดตำแหน่งฉีดให้แม่นยำ เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มผลสำเร็จของการรักษา แม้วิธีนี้อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงชั่วคราว แต่ผลเหล่านี้มักหายได้เองภายในไม่กี่วัน และแพทย์จะควบคุมปริมาณยาและความถี่ในการฉีด เพื่อป้องกันผลกระทบระยะยาวต่อกระดูกหรือระบบภูมิคุ้มกัน การฉีดสเตียรอยด์ไม่แนะนำในผู้ป่วยติดเชื้อ มีภาวะเลือดออกผิดปกติ หรือหญิงตั้งครรภ์ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมของการรักษาในแต่ละกรณี เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดของการรักษา

 


Related Content
Pelvic Endometriosis, ปวดท้องเม้นท์, ปวดประจำเดือน, ปวดท้อง, เซเปี้ยนซ์, นาตยา
โรคนี้เกิดจากการที่เนื้อเยื่อคล้ายเยื่อบุโพรงมดลูก (endometrial-like tissue) เจริญเติบโตอยู่นอกโพรงมดลูก เช่น บริเวณรังไข่ ท่อนำไข่ พังผืดในอุ้งเชิงกราน หรือแม้กระทั่งที่ผนังลำไส้หรือกระเพาะปัสสาวะ
31 Aug 2025
ปวดท้องน้อย, ปวดประจำเดือน, หมอนาตยา
อาการปวดท้องน้อยจากการมีประจำเดือน Primary Dysmenorrhea เกิดจากการสร้างสาร prostaglandin มากกว่าปกติ ส่งผลให้กล้ามเนื้อมดลูกหดรัดตัวรุนแรง เกิดอาการปวดเกร็ง ถ่ายเหลว หรือคลื่นไส้
21 Aug 2025
เทนนิส, กีฬา, เซเปี้ยนซ์
โรงพยาบาลเซเปี้ยนซ์ ในฐานะผู้นำด้านเวชศาสตร์การกีฬาและการระงับปวดเฉพาะทาง มองเห็นว่า การรักษาที่ดี ต้องเริ่มจากความเข้าใจ biomechanic และ pain pathway ที่ถูกต้อง
4 Aug 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Privacy Policy and Cookies Policy
Compare product
0/4
Remove all
Compare
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy