รู้ทัน “อัลไซเมอร์” โรคเงียบที่ใกล้กว่าที่คิด
อัลไซเมอร์ (Alzheimers Disease, AD) เป็นโรคทางระบบประสาทที่พบได้บ่อยที่สุดของโรคสมองเสื่อม (dementia) เกิดการเสื่อมของเซลล์สมองอย่างค่อยเป็นค่อยไป มีอาการเริ่มต้นจากความจำเสื่อมเล็กน้อย (mild cognitive impairment) แล้วยกระดับขึ้นเป็นการสูญเสียความสามารถในการดำรงชีวิตประจำวัน งานวิจัยในยุโรปและอเมริกาได้เน้นว่า แม้จะยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด แต่มีแนวทางที่สามารถลดความเสี่ยง ยืดช่วงเวลาอาการ และปรับปรุงคุณภาพชีวิตได้อย่างมีนัยสำคัญ
ปัจจัยเสี่ยงหลักของอัลไซเมอร์
จากงานวิจัยล่าสุด ปัจจัยเสี่ยงสามารถแบ่งเป็น เปลี่ยนแปลงได้ (modifiable) และ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ (non-modifiable) ดังนี้
ปัจจัยไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
- อายุที่เพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยที่ชัดเจนที่สุด
- พันธุกรรม เช่น การมียีน APOE ε4 ทำให้เสี่ยงสูงขึ้น (แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มียีนนี้จะเป็น)
- เพศหญิง มีงานวิจัยระบุว่าเพศหญิงมีความเสี่ยงสูงกว่าเมื่ออายุมากขึ้น
ปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงได้ / ปรับได้
งานวิจัยของ Aiello et al. (The Lancet, 2025) ระบุว่า ปัจจัยต่อไปนี้มีความสำคัญในการเพิ่มความเสี่ยงของ AD: เบาหวาน, โรคความดันโลหิตสูง, อ้วนกลางวัย (mid-life obesity), คลอเลสเตอรอลสูง เป็นต้น The Lancet
งานอื่น ๆ ยังระบุว่า การไม่ออกกำลังกาย (physical inactivity), ระดับการศึกษาไม่สูง (low educational attainment), สูบบุหรี่, การได้ยินเสื่อม, ภาวะซึมเศร้า มีส่วนสัมพันธ์ที่สำคัญต่อการเกิด AD และ dementia ที่เกี่ยวข้อง JAMA Network+2ScienceDirect+2
แนวทางการป้องกัน (Prevention)
แม้ไม่สามารถรับประกันว่า จะไม่เกิดอัลไซเมอร์เลย แต่งานวิจัยทั่วโลกยืนยันว่านโยบายและพฤติกรรมเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงและชะลอการเกิดอาการได้
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทั้ง aerobic, strength training, balance และกิจกรรมที่ต้องใช้สมองควบคู่ (dual-task exercise)
- โภชนาการที่ดี อาหารที่อุดมไปด้วยผัก ผลไม้ โอเมก้า-3 (ปลา), ลดไขมันอิ่มตัวและน้ำตาล
- ควบคุมโรคหัวใจและหลอดเลือด ความดันโลหิต, เบาหวาน, คอเลสเตอรอล ต้องดูแลให้เป็นปกติ
- กระตุ้นสมองและความรู้ การเรียนรู้ต่อเนื่อง มีงานอดิเรกที่ใช้สมอง อ่านหนังสือ เล่นเกมฝึกความจำ
- ลดปัจจัยเสี่ยงที่ปรับได้ เช่น หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่เหมาะสม และรักษาสุขภาพจิต (ลดความเครียด ซึมเศร้า)
การวินิจฉัยเบื้องต้น
- การประเมิน neurocognitive screening tests เช่น MMSE, MoCA
- หากสงสัย อาจใช้ imaging (MRI) เพื่อดูการหวังผลของการลดขนาดสมอง (atrophy) หรือการสะสมของ amyloid/tau biomarkers
- การใช้งาน biomarker ทางสมอง หรือน้ำไขสันหลัง (CSF), PET scan สำหรับ amyloid เป็นต้น เพื่อยืนยัน diagnosis โดยเฉพาะในระยะเริ่มแรก
แนวทางการรักษาที่ถูกต้องตามหลักการแพทย์
แม้ว่าปัจจุบันยังไม่มีการรักษาที่ หายขาด แต่มีวิธีที่ช่วยชะลออาการและปรับปรุงความสามารถในการใช้ชีวิต โดยโรงพยาบาลเซเปี้ยนซ์ ให้บริการดังนี้
1. ยา (Pharmacological Therapy)
- Cholinesterase inhibitors เช่น Donepezil, Rivastigmine, Galantamine ช่วยเพิ่มสารสื่อประสาท acetylcholine เพื่อปรับปรุงความจำและการคิดวิเคราะห์ในระยะ mild-moderate AD
- Memantine เหมาะกับกรณี moderate-to-severe เพื่อควบคุมอาการสับสนและปรับปรุงความสามารถประจำวัน
- ยาต้าน amyloid ใหม่ เช่น Lecanemab หรือ Donanemab ซึ่งงานวิจัยล่าสุดชี้ว่าสามารถลดการสะสม amyloid ในสมอง และชะลอการเสื่อมของสมองได้ประมาณ 25-30% ในผู้ป่วยระยะเริ่มแรกของ AD PMC
- ยาร่วมอื่นๆ หากมีอาการทางจิตเวช เช่น ซึมเศร้า วิตกกังวล
2. การรักษาไม่ใช้ยา (Non-pharmacological)
- การฟื้นฟูสมอง (Cognitive Rehabilitation) ฝึกสมาธิ, ฝึกความจำ, กิจกรรมนำกระบวนการคิด วิเคราะห์ เช่น puzzles, games ที่กระตุ้นการทำงานของสมอง
- การออกกำลังกายที่เหมาะสม เดินเร็ว ว่ายน้ำ โยคะ เบา ๆ ช่วยเพิ่มความไหลเวียนเลือดในสมอง
- โภชนาการที่ดี และอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านออกซิเดชัน เช่น วิตามิน E, C, omega-3
- สนับสนุนสุขภาพจิต เพิ่มการมีส่วนร่วมทางสังคม ลดความเหงา
3. การรักษาขั้นสูงและการดูแลเฉพาะทาง
- การใช้ biomarkers และ imaging เพื่อการตรวจวินิจฉัยที่แม่นยำและการติดตามผลอย่างละเอียด
- ระบบบำบัดอาการข้างเคียง เช่น ปรับยาในผู้ป่วยที่มีโรคหลายโรคร่วม (multimorbidity)
- ดูแลแบบทีม (multidisciplinary team) ประกอบด้วย ประสาทวิทยา จิตแพทย์ นักกายภาพบำบัด นักกิจกรรมบำบัด นักโภชนาการ
บริการของโรงพยาบาลเซเปี้ยนซ์
- ตรวจ gene เพื่อหาความเสี่ยงของโรค
- ทีมแพทย์ประสาทวิทยา / Neurology Specialist + นักเวชศาสตร์ปวด เพื่อจัดการอาการทางประสาทที่เกี่ยวข้อง
- MRI Neuroimaging, PET scan / amyloid biomarkers, ระบบติดตามสมองและความจำ
- โปรแกรมดูแลผู้ป่วย Alzheimer แบบองค์รวม (Comprehensive Alzheimer Care Program) ที่ให้ทั้งยา + non-drug therapy + support สำหรับครอบครัว
- ระบบติดตามผล (Follow-up) และปรับแผนรักษาตาม progression ของโรค
- การดูแลด้านคุณภาพชีวิต การจัดการอาการข้างเคียง, การสนับสนุนจิตใจ, กิจกรรมฟื้นฟูสมรรถภาพสมอง, โภชนาการ และบริการสำหรับผู้ดูแล (caregiver support)
อัลไซเมอร์อาจไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ในปัจจุบัน แต่ด้วยความเข้าใจปัจจัยเสี่ยง แนวทางป้องกันที่เหมาะสม และการดูแลรักษาที่ครบถ้วน ผู้ป่วยสามารถมีชีวิตที่ดีขึ้นและชะลอความเสื่อมได้ โรงพยาบาลเซเปี้ยนซ์พร้อมที่จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ท่านสามารถวางใจได้ ด้วยมาตรฐานสากล เครื่องมือทันสมัย และบริการที่ดูแลทั้งตัวท่านและครอบครัว
เอกสารอ้างอิงสำคัญ
- Aiello AE, et al. Risk factors for Alzheimers disease and cognitive function The Lancet, 2025 The Lancet
- Zhang J, et al. Recent advances in Alzheimers disease: mechanisms Nature, 2024 Nature
- Silva MVF, et al. Alzheimers disease: risk factors and potentially protective BMC Biomedical Sciences, 2019 BioMed Central
- John Hardy. Alzheimers Disease: Treatment Challenges for the Future. Journal of Neurochemistry, 2025 PMC
- Livingston G, et al. Dementia prevention, intervention, and care: 2024 report of The Lancet, 2024 The Lancet